เมื่อลูกน้อยไอแบบมีเสมหะ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาทรมานทั้งร่างกาย และจิตใจ เพราะไม่สามารถกินของที่ชอบอย่างขนม ไอติม น้ำหวาน หรือนอนหลับสนิทเหมือนเดิมได้
ในฐานะคนเป็นพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง เมื่อลูกไอแบบมีเสมหะ ควรรีบหายาลายเสมหะให้ลูกกินโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เขากลับมาใช้ชีวิตได้อย่างร่าเริง ไม่จมอยู่กับความทรมานนานเกินไป
แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อยาละลายเสมหะให้ลูก อย่าลืมทำตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อนี้
1. ดูสรรพคุณของยาละลายเสมหะ
ถ้าอยากให้ลูกหายจากอาการไอแบบมีเสมหะ ควรเลือกซื้อยาที่มีสรรพคุณละลายเสมหะ ลดความเหนียวของเสมหะ ทำให้ขับออกได้ง่ายขึ้น และบรรเทาอาการไอ ไม่ควรเลือกซื้อยาประเภทกดอาการไอ เพราะจะทำให้รักษาได้ไม่ตรงจุด เนื่องจากยากดอาการไอ จะทำให้ลูกหยุดไอได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้เสมหะหายไป ดังนั้นลูกน้อยจะยังคงทรมานร่างกายและจิตใจไม่ต่างจากเดิม
2. ดูส่วนผสมของยาละลายเสมหะ
หนึ่งในส่วนผสมสำคัญที่ควรมีในยาละลายเสมหะสำหรับเด็ก คือ คาร์โบซิสเทอีน (Carbocisteine) เพราะมีสรรพคุณช่วยลดความเหนียวของเสมหะ ทำให้ร่างกายกำจัด หรือขับเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ ส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง คือ แอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ลูกน้อยระคายเคืองลำคอมากกว่าเดิม และอาจส่งผลกระทบกับร่างกายในระยะยาวได้ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงเรื่องแอลกอฮอล์ไม่ได้ เช่น ยาบางตัวจำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลาย ก็ควรดูให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนซื้อยาทุกครั้ง
3. ดูรสชาติของยาละลายเสมหะ
เป็นเรื่องปกติที่เด็กเล็กและการกินยา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกกัน แต่ถ้าอยากให้ลูกน้อยหายจากอาการไอแบบมีเสมหะที่แสนจะทรมาน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง ก็ต้องทำให้เด็กกินยาให้ได้
แต่การจะทำให้ลูกไม่เกลียดการกินยาในระยะยาว คือ ให้เขายอมกินยาด้วยตัวเอง โดยไม่ถูกบังคับ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการป้อนยาละลายเสมหะชนิดน้ำ ที่กลืนง่าย มีรสชาติอร่อย ไม่ขม มีความใกล้เคียง ผลไม้ ขนม หรือน้ำหวาน ที่เด็กคุ้นเคย เช่น อามีคอฟ (AMICOF) ที่มีให้เลือกทั้งรสผลไม้รวม และรสน้ำผึ้งมะนาว เป็นต้น
4. ดูบริษัทผลิตยาละลายเสมหะ
ทุกวันนี้ที่คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ทำให้การส่งต่อข้อมูลรีวิวตัวยา เป็นเรื่องง่าย และรวดเร็วมากขึ้นด้วย แต่บ่อยครั้ง ความรวดเร็วนี้ก็มาพร้อมกับความผิดพลาดได้เหมือนกัน ดังนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเลือกซื้อยาละลายเสมหะให้ลูกอย่างถี่ถ้วน อย่าหลงเชื่อรีวิวที่อาจดูโอ้อวดเกินจริง จนลืมให้ความสำคัญกับบริษัทผู้ผลิตยา ว่าได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข หรือไม่ เพราะสิ่งนี้จะช่วยยืนยันได้ว่า บริษัทมีความน่าเชื่อถือ และผลิตยาตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพ และกฎหมาย
ตรวจสอบรายชื่อยา และชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตได้ที่ https://porta.fda.moph.go.th/fda_search_all/main/search_center_main.aspx
5. ดูอาการของลูกอย่างใกล้ชิดหลังกินยาละลายเสมหะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อให้ลูกน้อยกินยาละลายเสมหะแล้ว อย่าลืมตรวจดูอาการอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีอาการแพ้ยา เช่น อาเจียน หายใจลำบาก ตาบวม ปากบวม ผื่นขึ้น ฯลฯ ให้รีบพาไปพบแทพย์ทันที
นอกจากนั้น หากลูกกินยาต่อเนื่องเกิน 3 วัน หรือเกินระยะเวลาที่เภสัชกรแนะนำ แล้วอาการไอยังไม่ดีขึ้น ควรให้ลูกหยุดกินยา แล้วพาไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาด้วยวิธีอื่นต่อไป เพราะไม่แน่ว่า อาการไอแบบมีเสมหะที่เป็นอยู่นั้น อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเรื้อรังบังอย่าง ที่ต้องมีการรักษาด้วยวิธีเฉพาะทาง
เมื่อลูกไอแบบมีเสมหะเมื่อไหร่ พ่อแม่ ผู้ปกครอง อย่าลืมเลือกยาละลายเสมหะตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อนี้อย่างครบถ้วน เพื่อทำให้ลูกน้อยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างร่าเริงอีกครั้ง